อัปเดตตลาด: 10 กรกฎาคม 2568 - ภาษีทองแดงทำให้เกิดคลื่นกระแทก บราซิลเฝ้าระวัง Nvidia ละเมิด $4 ล้านล้าน

ตลาดกำลังเตรียมรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากข่าวใหญ่ 3 ประเด็นส่งผลกระทบกระเทือนต่อสินค้าโภคภัณฑ์ ภูมิรัฐศาสตร์ และมูลค่าหุ้นเทคโนโลยี การประกาศขึ้นภาษีนำเข้าทองแดงในอัตราที่สูงของสหรัฐฯ ภัยคุกคามทางการค้าที่กลับมาอีกครั้งต่อบราซิล และมูลค่าตลาดของ Nvidia ที่พุ่งสูงกว่า $4 ล้านล้านดอลลาร์ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญท่ามกลางความไม่แน่นอนที่ถาโถมเข้ามาในช่วงฤดูร้อน

ภาษีทองแดงทำให้เกิดความกังวลเรื่องสงครามการค้าอีกครั้ง

ทองแดงกลายเป็นประเด็นสำคัญหลังจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจัดเก็บภาษีนำเข้าทองแดงในอัตรา 50% สูงลิ่ว โดยอ้างถึงความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติ มาตรการนี้ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา สร้างความตกตะลึงให้กับทั้งตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และคู่ค้าทั่วโลก

ในประเทศ ราคาทองแดงในสหรัฐฯ พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลดีต่อผู้ผลิตในสหรัฐฯ ในระยะสั้น แต่ความจริงกลับซับซ้อนกว่านั้น ปัจจุบันสหรัฐฯ ผลิตได้เพียงประมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณที่บริโภค ซึ่งหมายความว่าภาษีศุลกากรมีแนวโน้มที่จะเพิ่มต้นทุนการผลิตมากกว่าที่จะกระตุ้นให้เกิดการทำเหมืองในประเทศใหม่ อย่างน้อยก็ในระยะสั้น

ราคาทองแดงทั่วโลก โดยเฉพาะในตลาดโลหะลอนดอน (LME) ปรับตัวลดลง เนื่องจากผู้ซื้อผู้ขายประเมินว่าอุปสงค์ของสหรัฐฯ อาจลดลง ซึ่งเน้นย้ำถึงพลวัตที่บิดเบือนซึ่งกำลังเกิดขึ้นระหว่างห่วงโซ่อุปทานในประเทศและทั่วโลก

บราซิลในเป้าเล็ง

การเคลื่อนไหวทางการค้าทองแดงครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการโจมตีครั้งใหม่ที่เต็มไปด้วยภัยคุกคามทางการค้า หนึ่งในประเทศที่ได้รับแจ้งถึงการขึ้นภาษีนำเข้าที่อาจเกิดขึ้นคือบราซิล ซึ่งเป็นผู้ส่งออกโลหะ ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และสินค้าขั้นกลางรายใหญ่ รัฐบาลของทรัมป์ส่งสัญญาณว่าภาษีนำเข้าสินค้าสำคัญอาจถูกปรับขึ้นเป็น 50% ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกให้กับคู่ค้าในละตินอเมริกา และทำให้เกิดความกังวลว่าจะมีการตอบโต้กันแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน

Nvidia ทะลุ $4 ล้านล้าน: สัญญาณแห่งเทคโนโลยีท่ามกลางความโกลาหล

ท่ามกลางการฟื้นตัวของสงครามการค้า เทคโนโลยียังคงนำเสนอเรื่องราวที่แตกต่างออกไปอย่างมาก Nvidia มีมูลค่าตลาดทะลุ $4 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสั้นๆ ในสัปดาห์นี้ กลายเป็นบริษัทมหาชนที่มีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ แซงหน้า Apple และ Microsoft ไปแล้ว

ด้วยความต้องการที่ไม่มีวันสิ้นสุดสำหรับชิป AI และศูนย์ข้อมูล Nvidia จึงกลายเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจยุคใหม่ กระแสเงินทุนจากสถาบันต่างๆ ยังคงแข็งแกร่ง และแม้จะมีอุปสรรคทางเศรษฐกิจมหภาค แต่ความเชื่อมั่นต่อ AI และการประมวลผลประสิทธิภาพสูงยังคงแข็งแกร่งอย่างน่าทึ่ง

แม้ว่ามูลค่าของ Nvidia จะสูงเมื่อเทียบกับมาตรฐานทั่วไป แต่นักลงทุนก็ดูเหมือนจะไม่หวั่นไหว คาดว่าบริษัทจะมีรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกไตรมาสหนึ่ง โดยนักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ เนื่องจากการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI ทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น

บทสรุป

ขณะนี้ตลาดกำลังเข้าสู่ช่วงที่นโยบายการเงิน นโยบายการค้า และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ล้วนขัดแย้งกัน ธนาคารกลางอาจต้องดิ้นรนเพื่อสร้างสมดุลระหว่างภาวะช็อกจากภาวะเงินเฟ้อด้านอุปทานกับแรงดึงดูดด้านภาวะเงินฝืดจากนวัตกรรม

สัปดาห์ข้างหน้าจะขึ้นอยู่กับว่ามาตรการภาษีเหล่านี้จะถูกบังคับใช้อย่างเข้มข้นแค่ไหน และจะมีมาตรการตอบโต้ตามมาหรือไม่ ขณะเดียวกัน ฤดูกาลประกาศผลประกอบการกำลังเข้มข้นขึ้น และทุกสายตาจะจับจ้องไปที่คู่แข่งของ Nvidia อย่าง AMD, Intel และ Microsoft ว่าจะสามารถทำผลงานได้ร้อนแรงเทียบเท่ากับคู่แข่งได้หรือไม่

ตอนนี้นักลงทุนต้องระมัดระวัง สินค้าโภคภัณฑ์กำลังพุ่งขึ้นเป็นสีแดง เทคโนโลยีกำลังพุ่งสูง และภูมิรัฐศาสตร์กลับไม่เงียบเหงาเลย

พบกันใหม่คราวหน้า ขอให้ทุกท่านค้าขายอย่างปลอดภัย!

โดยเจมส์ เทรสโคธิก
หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดและวิเคราะห์ตลาด

คำเตือนเรื่องความเสี่ยง: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาเท่านั้น และไม่ถือเป็นคำแนะนำการลงทุน ตลาดการเงินมีความเสี่ยง และผลงานในอดีตไม่ได้บ่งชี้ถึงผลลัพธ์ในอนาคต โปรดดำเนินการวิจัยด้วยตนเองและขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน

ชีวประวัติ

เพิ่มเติมจาก